.. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

Beauty VDO Today :: โยคะบริหารหน้าท้อง ลดหน้าท้อง

Beauty Tricks :: เคล็ดลับนวดหน้าอกเพิ่มขนาด สำหรับสาวๆอกไข่ดาว

วิธีการนวดหน้าอก เพื่อเพิ่มขนาด โดยการโกยไขมันข้างลำตัว นวดทรวงอกอวบอิ่ม วันนี้แนะนำการนวดกระชับหน้าอกด้วยมือ นวดไล่ไขมัน นวดไล่ไขมันเซลลูไลท์ มีกรรมวิธีการนวดดังนี้


  1. ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางตักครีมประมาณข้อนิ้วของเราค่ะ (ถ้าเป็นเจลใช้นิ้วนาง ตักนิ้วเดียวก็พอ) แล้วถูมือไปมาให้ครีมมีอุณหภูมิเท่าร่างกายเรา (จะได้ซึมเข้าผิวง่ายขึ้น) ทาครีมด้วยการใช้มือขวาทาครีมรอบหน้าอกซ้าย โดยเว้นหัวนมไว้
  2. เริ่มนวดหน้าอกก่อน โดยใช้มือขวาวางไว้ด้านบนหน้าอกซ้ายแล้วลากจากรักแร้เข้ามากลางหน้าอก จากนั้นวนมือลงด้านล่างแล้ววกกลับไปที่รักแร้อีกครั้ง (ตามลูกศร) ประมาณ 15 ครั้งต่อการนวดหนึ่งข้าง พยายามช้อนเต้านมขึ้นทุกครั้งที่มือวนขึ้น และพยายามโกยเนื้อส่วนใต้รักแร้กลับมาที่หน้าอกด้วยเพื่อให้ได้หน้าอกที่มีรูปทรงสวยงาม จากนั้นอย่าเพิ่งเปลี่ยนท่าค่ะ เอามือซ้ายที่มีครีมเหลืออยู่ทารอบหน้าอกขวาแบบเดียวกันแล้วนวดหน้าอกวนจากรักแร้เข้าระหว่างอกเช่นกัน จำนวนครั้งควรจะเท่าๆ กันเพื่อให้หน้าอกสองข้างขยายเพิ่มขึ้นเท่าๆ กัน
  3. เริ่มท่าต่อไป คือวางมือขวาบนหน้าอกซ้ายบริเวณเหนือหัวนมแล้วลูบขึ้นประมาณ 15 ครั้ง จากนั้นวางมือซ้ายบนหน้าอกขวาแล้วลูบขึ้น (ตามลูกศร) ให้ได้ละ 15 ครั้ง เช่นกัน
  4. จากนั้นต้องตักครีมเพิ่มก่อนค่ะ เพราะที่ทาไว้มันซึมลงผิวทรวงอกไปกับสองท่าแรกแล้วอย่าลืมวอร์มครีมให้อุ่นขึ้นเล็กน้อย ด้วยการถูมือเข้าด้วยกันแล้ววางมือทั้งสองข้างไว้ที่ฐานทรงแล้วกอบขึ้นมาบริเวณหัวนมให้ได้ทั้ง 4 ทิศ (ดูลูกศรในรูปนะคะ) คือ บน-ล่าง ก่อนแล้วตามด้วย ซ้าย-ขวา ทำซ้ำ 15 ครั้ง ถ้าเริ่มจากหน้าอกข้างซ้ายก็ตักครีมเพิ่มแล้วนวดหน้าอกขวาในแบบเดียวกันด้วยค่ะ
 
การนวดหน้าอกทั้งซ้าย และขวาไปทีละท่าช่วยให้จำได้ค่ะว่านวดไปกี่ครั้งจะได้มั่นใจว่าเท่ากันแน่ๆ การตักครีมทีละน้อยในแต่ละท่าที่นวดและ การวอร์มครีมให้อุ่นก่อนทำให้ครีมซึมลงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อแนะนำในการนวดเพิ่มขนาดหน้าอก
  1. พยายามนวดหน้าอก 2 ข้าง ในจำนวนครั้งที่เท่าๆ กันเพื่อให้ได้หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นเท่าๆ กัน แต่กรณีที่หน้าอกสองข้างไม่เท่ากันให้นวดหน้าอกข้างที่เล็กมากกว่าก่อน บางคนอาจใช้วิธีนวดหน้าอกข้างเล็กข้างเดียวจนกว่าหน้าอกข้างนั้นจะใหญ่ขึ้นจนเท่าอีกข้างก่อน แล้วค่อยนวดไปพร้อมๆ กันก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ
  2. ไม่ควรนวดหน้าอกรุนแรง ออกแรงนวดพอประมาณจะได้ผลดีกว่า
  3. ระหว่างนวดหน้าอก พยายามไม่ให้ครีม โดนหัวนมถ้าโดนให้เช็ดออก
  4. นวดแล้วไม่ควรรีบใส่บราควรรอให้ผิวซึมซับครีมให้หมดก่อน
  5. เพื่อให้ได้ผล 100% ควรนวดหน้าอกสม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผลว่าหน้าอกมีขนาดเพิ่มขึ้น
  6. ไม่ควรใช้ครีมหรือเจลเพิ่มขนาดหน้าอกปนกับบอดี้โลชั่นอื่นๆ เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้
ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการดูแลหน้าอกนะคะ เราก็จะได้ขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้นอย่างได้ผลและปลอดภัย

ที่มา: http://www.beautyfullallday.com/healthy/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%81.html

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: สูตรลับลดคอเลสเตอรอลด้วยน้ำแครอทปั่น


น้ำแครอทปั่น สูตรไร้คอเลสเตอรอล ด้วยเคล็ดลับการลดคอเลสเตอรอลด้วยตัวเอง กับผลไม้ลดน้ำตาลในเลือด และการลดคอเลสเตอรรอลในร่างกาย ผลไม้ปั่นมีหลายชนิด แต่แครอท ไม่มีคอเลสเตอรอล แน่นอนด้วยสูตรนี้ จากผลตรวจสุขภาพของใครก็ตามที่สรุปออกมาว่า คุณมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูงเกินไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแพทย์จะแนะให้ลด ละ เลี่ยง อาหารทะเล ไขแดง เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน กะทิ นมไขมันเต็ม เนย และไอศกรีม เพื่อป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้น แครอทปั่นสูตรไร้คอเลสเตอรอล นี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับระดับแคลอรี่ในร่างกายอีกต่อไป เป็นการลดความอ้วนแบบง่ายๆ ไปในตัว เพราะคอเลสเตอรอลนั้นจะส่งผลเสียกับหลอดเลือดและหัวใจ เสี่ยงหลอดเลือดตีบ เป็นโรคหัวใจขาดเลือด และอัมพาตได้

ของที่หมอห้ามก็มักจะเป็นของอร่อยและรสหวานเสียด้วยสิ อย่างนี้ถ้าใครเป็นคนชอบอาหารรสหวานก็คงลำบากใจแย่ ‘มุมสุขภาพ’ มีสูตรเครื่องดื่มออกรสหวาน แต่ปราศจากคอเลสเตอรอลมาแนะนำ ทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่อุดมด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินซี

วัตถุดิบที่ใช้มีไม่มาก ประกอบด้วย แครอท ขนาดกลาง 1 หัว (หรือปริมาณ 3 ออนซ์) ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นหยาบ อินทผลัม 3 ผล ใช้ได้ทั้งอินทผลัมสดหรือชนิดอบแห้งก็ได้ตามสะดวก แต่ให้เอาเมล็ดออก งาขาวคั่วแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นสด 1/3 ถ้วย (ไม่ผสมน้ำตาล น้ำเชื่อม หรือเกลือเลย) และน้ำแข็ง 3 ก้อน เท่านั้น

ขั้นตอนในการทำ เพียงแค่ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงปั่นด้วยเครื่องปั่น และปั่นจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วรินใส่แก้ว ดื่มทันที ส่วนคุณค่าทางโภชนาการที่ร่างกายจะได้รับ ประกอบด้วย 214 แคลอรี่ ไขมัน 6 กรัม ไขมันอิ่มตัว 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 39 กรัม เส้นใยอาหาร 6 กรัม โซเดียม 55 มิลลิกรัม โปรตีน 5 กรัม โดยไม่มีคอเลสเตอรอลรวมอยู่เลย.

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: เคล็ดลับลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ

เคล็ดลับลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ


1.ไม่กินข้าวมื้อเย็น วิธีนี้เหมาะจะเป็นบันไดขั้นแรกสู่สูตรต่อๆ ไป โดยในมื้อเช้าและกลางวันสามารถกินได้ตามปกติ เฉพาะมื้อเย็นเท่านั้นที่กินอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ข้าว อาจจะหาจานเปล่ามา 1 ใบ ใส่ผักสดให้เต็มจาน แล้วกินกับกับข้าวไทยๆ อาทิ น้ำพริกปลาทู แกงส้ม แกงเลียง ยำ ลาบ งดกับข้าวมันๆ เช่นผัดผักมันๆ ของทอด และแกงกะทิ

2.เลือก 1 วันในสัปดาห์สำหรับงดเนื้อสัตว์ ไขมัน ข้าว แล้วกินแต่ผลไม้อย่างเดียวทั้งวัน เช่น มะละกอสุก

3.เปลี่ยนจากการกินเนื้อผลไม้มาเป็นการดื่มน้ำผลไม้วันละชนิด ติดต่อกัน 3 วัน



4.อดเพื่อสุขภาพ 10 วัน โดยเริ่มจาก 2 วันแรกกินผลไม้ ต่อจากนั้นอีก 7 วันกินผักและผลไม้สดชนิดต่างๆ จนครบ 10 วัน ซึ่งใน 10 วันนี้ถ้าทำอย่างเข้มงวด น้ำหนักจะหายไปประมาณ 3-4 กิโลกรัม5.กินเนื้อกับผัก โลว์-คาร์บ(Low-Carb) คือกินได้ทุกอย่าง โดยไม่แตะคาร์โบไฮเดรตซึ่งรวมทั้งแป้ง ข้าว และผลไม้ให้น้อยที่สุดและกินผักปริมาณ 2 เท่าของเนื้อตามสูตรนี้แม้ว่าการที่ร่างกายไม่ได้รับพลังงานหลักจากคาร์โบไฮเดรตตามปกติ แต่ส่วนหนึ่งของพลังงานสำรองอาจเป็นโปรตีนจากกล้ามเนื้อ การกินเนื้อกับผักนานๆ จึงอาจส่งผลให้คุณผอมแบบกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย จึงจำเป็นต้องรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ด้วยการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้หากบริหารความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน อย่างการยกเวทไปพร้อมกันด้วย ก็จะช่วยเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อให้สวยงามและดูดียิ่งขึ้นด้วยนะคะ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: สูตรลดน้ำหนักภายใน 7 วัน


สูตรนี้บางคนทำแล้วสามารถลดได้ถึง 9 กิโลกรัมใน 7 วันเลยนะคะ ลองเอาไปทำตามดู
แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับภาวะร่างกายของคนเราด้วยนะคะ ถ้าหากน้ำหนักมากๆ เกิน 80 กิโลกรัมขึ้นไป หากทำตามสูตรนี้ได้ เชื่อว่าน่าจะลดได้ 9 กิโลแน่ๆ ค่ะ ใจแข็งพอรึเปล่าคะ


วันที่ 1
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับผักต้ม
มื้อเย็น : สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้

วันที่ 2
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
มื้อกลางวัน : สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้ กับสลัดผักเขียวและผลไม้
มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

วันที่ 3
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง และสลัดกับแครอท
มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้




วันที่ 4
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้ม
มื้อเย็น : ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

วันที่ 5
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
มื้อเย็น : สเต็ก หรือเนื้อย่างไม่ติดมัน กับสลัดผักสดน้ำใส

วันที่ 6
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไก่ย่างไม่ติดหนัง
มื้อเย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับแครอทต้ม

วันที่ 7
มื้อเช้า : กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ผลไม้อะไรก็ได้ในปริมาณต้องการ
มื้อเย็น : อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

ที่มา: http://www.ladytip.com/main/content/view/23/75/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: วิธีกำจัดขนรักแร้ให้วงแขนขาวไร้ขนเนียนนุ่ม

สารพัดวิธีกำจัดขนรักแร้ให้วงแขนขาวไร้ขนเนียนนุ่ม


1. การโกน เป็นวิธีง่าย สะดวก รวดเร็ว และราคาย่อมเยาเวิร์คกับขนบริเวณรักแร้ ขา และบิกินี่ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ ใบมีดโกนที่ใช้นอกจากจะคมแล้วยังต้องสะอาดด้วย ก่อนโกนขนต้องพยายามทำให้ขนนุ่มขึ้นด้วยการทำให้เส้นขนเปียก อาจจะแช่น้ำหรือใช้สะบู่หรือครีมสำหรับโกนขนก็ได้ แต่วิธีนี้ข้อเสียอยู่คือขนที่ขึ้นใหม่มักจะแข็งและหยาบขึ้น เพราะขนที่ขึ้นใหม่ปลายจะตรง ต้องโกนซ้ำบ่อยๆ เพราะขนจะขึ้นเร็วและอาจรู้สึกผิวไม่นุ่มนวล ไม่เรียบเนียนสมใจ เนื่องจากปลายขนที่งอกขึ้นมาใหม่จะเห็นเป็นตอๆ ได้ง่าย ถ้ายิ่งโกนบ่อยๆ ด้วยแล้วจะยิ่งเสี่ยงต่อการขูดผิวมากๆ จนอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อได้


2. การถอน หลายๆ คนโดยเฉพาะคนรุ่นเก่าจะนิยมใช้แหนบถินขนมาก เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสุดๆ เวลาที่ถอนขนด้วยแหนบควรทำให้ขนในจุดนั้นๆ นุ่มขึ้นด้วยน้ำ ข้อเสียที่เห้นชัดของวิธีนี้คือรู้สึกเจ็บขณะถอน แถมต้องใช้เวลานานหากถอนบริเวณกว้าง ผผิวอาจมีลักษณะเป้นตุ่ม ดูไม่เรียบเนียน เสมือนเป็นหนังไก่ รักษาความสะอาดได้ไม่ดีอาจถึงขั้นอักเสบได้



3. การใช้ครีมกำจัดขน อาจทำโดยแวกซ์ขี้ผึ้งร้อนหรือเย็นแปะผ้าลงไปแล้วดึงย้อนขึ้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับรูขุมขน การแว็กซ์มีข้อดีคือทิ้งช่วงได้นานถึง 6 สัปดาห์ เพราะขนขึ้นช้าทำให้ไม่ต้องทำบ่อยๆ และขนใหม่อ่อนนุ่มขึ้น แต่มีข้อเสียคือ หากกระตุกแรงอาจรากขนขาดเกิดเป็นขนคุดอยู่ข้างใน หรืออาจเกิดการระคายเคืองในบางคน


4. การแว็กซ์ขน มี 3 ประเภทให้เลือกใช้ ทั้งแบบร้อน แบบเย็น และแบบแผ่น โดยทาแว็กซ์แล้วดึงย้อนทิศทางของขน เหมาะกับขนบริเวณขาและบิกินี่ งานนี้ทดสอบความอดทนค่ะ เพราะขณะทำจะเจ็บใช่เล่น ข้อดีคือ ผิวจะเรียบเนียนและนุ่มนวล ขนงอกช้า แต่มีข้อเสียคือ จะรู้สึกเจ็บ อาจมีการอักเสบและระคายเคืองได้

ที่มา: http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=babali-bigsize&date=17-09-2010&group=23&gblog=100

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: เคล็ดลับเลือกน้ำหอมอย่างไร? ให้มีเสน่ห์ เซ็กซี่และโรแมนติก!


ว่ากันว่ากลิ่นหอมบ่งบอกถึงความมีเสน่ห์ เซ็กซี่และโรแมนติก น้ำหอมจึงกลายเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนขาดไม่ได้ เพราะความหอมทำให้เธอรู้สึก มั่นใจและเป็นตัวของตัวเองแต่ ปัจจุบันน้ำหอมมีให้เลือกมากมายหลายกลิ่นและใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับทุกกลิ่น เพราะคนเราต่างจิตต่างใจ เพื่อค้นหากลิ่นที่ถูกใจ เรามีวิธีเลือกและทดลอง ก่อนซื้อน้ำหอมขวดใหม่มาฝาก

วิธีเลือกและลองน้ำหอม


1. ดูวัตถุประสงค์ในการใช้ เช่น ต้องการน้ำหอมกลิ่นใหม่สำหรับโอกาสใด อย่างวันทำงาน วันหยุดพักผ่อน หรืองานกลางคืน ซึ่งกลิ่นหอมสดชื่นอย่าง มะนาว เมนทอลหรือหอมเย็นเบา ๆ อย่างกลิ่นของใบไม้ หรือพืชอื่น ๆนั้น เหมาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาทำงาน ขณะที่กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์จะเหมาะสำหรับงานกลางคืน หรือไปดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติกมากกกว่า

2. ควรเลือกกลิ่นน้ำหอมด้วยการฉีดลงบนแผ่นกระดาษสำหรับทดลองกลิ่น แล้วหยิบออกมาสัก 3 – 4 กลิ่นที่ถูกใจ จากนั้นเดิมออกมาดมข้างนอก ให้ห่างจากแผนกน้ำหอมจะทำให้ไม่ทราบกลิ่นที่แท้ จริงหรือนำตัวอย่างนั้นกลับบ้านแล้วดมอีกครั้ง เพื่อดูความแตกต่างที่แท้จริงของแต่ละกลิ่น โดยการดมเมล็ดกาแฟถุงเล็ก ๆ เพื่อช่วยพักกลิ่นแต่ละกลิ่น วิธีนี้เป็นวิธีของนักดมน้ำหอมมืออาชีพ

3. ไม่ควรลองน้ำหอมหลายกลิ่นในที่เดียว ลองแตะน้ำหอมแต่ละกลิ่นตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายอย่างกลิ่นหนึ่งบริเวณข้อมือ อีกกลิ่นที่ท้องแขน หรือข้อพับหลีกเลี่ยงการลองกลิ่นน้ำหอมในบริเวณที่มี เครื่องประดับเนื่องจากโลหะของเครื่องประดับ จะดูดซับกลิ่นเหงื่อเอาไว้ทำให้ กลิ่นบิดเบือนได้

4. น้ำหอมแบบแต้มที่ไม่ใช่แบบสเปรย์ ควรใช้คอตต้อนบัดแตะน้ำหอมจากปากขวดแทนนิ้วมือ แล้วไปแต้มตามบริเวณต่าง ๆ กลิ่นน้ำหอมในขวดจะได้ไม่เปลี่ยน เพระไม่เกิดปฏิกิริยากับความร้อนจากนิ้วมือเรา

5. หลังจากลองน้ำหอมแล้วควรรอสัก 10 นาทีก่อนซื้อ เพื่อให้เวลาในการปรับกลิ่นขณะน้ำหอมผสมกับกลิ่นกาย ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่า กลิ่นไหนที่ใช่หรือไม่ใช่เนื่องจากกลิ่นที่เราได้จาก ขวดกับผิวบนข้อมือนั้นจะแตกต่างกัน

6. อย่าซื้อน้ำหอมที่จำกลิ่นมาจากคนอื่น เพราะอุณหภูมิและเหงื่อของคนเราไม่เหมือนกัน เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำหอมแล้วอาจจะไม่หอมเหมือนที่คนนั้นฉีดก็ได้

7. คนผิวมันจะกระจายกลิ่นน้ำหอมได้แรงกว่า เพราะฉะนั้นควรเลือกกลิ่นที่อ่อน ๆ ดีกว่า จะได้ไม่ฉุนเกินไป

8. แนะนำว่าให้ซื้อขวดเล็กก่อน หากใช้หมดแล้วค่อยซื้อใหม่ เพระเก็บไว้นานหรือเก็บไว้ไม่ดีกลิ่นจะเปลี่ยนได้ และถ้าอยากอัพเดทกลิ่นใหม่ ๆ ให้แวะเคาน์เตอร์น้ำหอมตอนสายๆ ฉีดบาง ๆ ที่ข้อมือด้านในทิ้งไว้ทั้งวัน จะได้รู้ว่ากลิ่นเข้ากับอุณหภูมิและเหงื่อของ เราหรือเปล่า

9. ถ้าเป็นไปได้ ลองดมดูไล่จากกลิ่นอ่อนๆ จนกลิ่นแรงขึ้นและควรลองทีละกลิ่น และอย่าให้เกิน 3 กลิ่น เพราะหลังจากนั้นจมูกของคุณจะเบลอ จนแยกแยะความแตกต่างของกลิ่นไม่ออก ลองแตะน้ำหอมกลิ่นที่คุณเล็ง ๆ ไว้บริเวณหลังมือ ทิ้งไว้สักพักกลิ่นจะจางลง รอสัก 10 – 20 นาที ให้น้ำหอมได้ปรับตัวเข้ากับสภาพผิวหนังของเรา กลิ่นหอมที่ยังคงทนอยู่และมีกลิ่นไม่ต่าง จากตอนแรกจะเป็นกลิ่นที่แท้จริง

10. ถ้าถ้าเป็นแบบสเปรย์ ให้ฉีดไล่จากข้อมือด้านในขึ้นมาที่ข้อพับแขนทีละกลิ่น ฉีดแล้วห้ามถูไปมา รอให้แอลกอฮอล์ระเหยไปก่อน ค่อยยกข้อมือขึ้นมาสูดกลิ่นหอม ๆ

11. จมูกจะทำงานได้มี ไม่มีเพี้ยน ถ้างดอาหารรสจัดและงดสูบบุหรี่ เพื่อการทดสอบจมูกให้มีคุณภาพไว้ใจได้ ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในตอนเช้าวันไหนก็ได้ เพราะในเวลาตอนเช้านั้นคุณยังสดใส ฉะนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่จมูกของคุณทำงานได้ดีที่สุด

ประพรมน้ำหอมอย่างไรให้หอมติดทนนาน


1. น้ำหอมจะกระจายกลิ่นไปในอากาศได้ดีเมื่ออยู่บนผิวอุ่น ๆ ที่มีเส้นเลือดไหลเวียนใกล้ ๆ ผิวหนังที่เห็นเส้นเลือดชัด ๆ และจับชีพจรได้ อย่างซอกคอ ข้อมือด้านใน ข้อพับทั้งหลาย ทั้งศอก เข่า ขาหนีบ ร่องอก และข้อเท้า บริเวณเหล่านี้จะมีผิวอุ่นกว่าบริเวณอื่น กลิ่นน้ำหอมก็จะระเหยอย่างสม่ำเสมอตามความร้อน และจังหวะชีพจร

2. ถ้าอยากหอมไปทั้งวัน คงต้องใช้ Shampoo, Shower gel, deodorant ที่มีกลิ่นเดียวกับน้ำหอม จะช่วยให้หอมนานขึ้น และถ้าอยากให้ผมมีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นตัว ลองฉีดสเปรย์น้ำหอมกลิ่นเดียวกันลงบนแปรงหวีผม สเปรย์ห่าง ๆ พอให้ละอองจับบนแปรง แล้วค่อยบรรจงหวีผม แต่แอลกอฮอล์และสารต่าง ๆ ในน้ำหอมอาจทำให้ผมเสียได้ เพราะฉะนั้นต้องหมั่นทรีตเม้นผมเป็นประจำ

3. สาววัยเรียนวัยรุ่นทั้งหลาย แนะนำว่าลองเปลี่ยนมาเติมกลิ่นหอม ให้สัมภาระในกระเป๋าหรือผ้าเช็ดหน้าแทน โดยการเอาของที่อยากให้มีกลิ่นหอมมาใส่รวมในกล่องที่ปิดฝาได้ แล้วฉีดน้ำหอมใส่สำลีก้อนใส่ลงไปในกล่องปิดฝาอบกลิ่นเอาไว้ วิธีนี้ใช้ได้กับเสื้อผ้าในตู้ด้วย ดีกว่าพรมน้ำหอมลงไปบนเสื้อ เพราะเสื้อจะเป็นรอยด่างเปล่า ๆ

4. เคยได้ยินว่ามาดาม Coco Chanel มักจะพรมน้ำหอมไปตามขอบและตะเข็บเสื้อผ้า ก่อนจะให้นางแบบเดินกรุยกรายบนแคทวอล์ค ถ้าอยากลองเอาไปใช้ดู ให้พรมบาง ๆ ตามตะเข็บและขอบด้านในของชายกระโปรง เวลาเดินผ่านคนที่นั่งอยู่ เขาจะได้รู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ

5. การใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่เพียงอย่างเดียวนั้น กลิ่นจะจากหายไปได้เร็ว ดังนั้นเพื่อกลิ่นหอมติดทนนานประหนึ่งนางในวรรณคดี ขอแนะนำให้ใช้ทั้งผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ครีมบำรุงผิว และตบท้ายด้วยการฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดเพื่อความหอมติดทนนานตลอดวัน

6. วิธีการดูแลน้ำหอมไม่ให้กลิ่นผิดเพี้ยน ควรเก็บน้ำหอมในที่เย็น แต่ไม่ชื้นและไม่โดนแดดจ้า ถ้าจะให้ดีใส่กล่องสุญญากาศก็ได้

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/%27aacano%27-aaxiae1eo%271eoeia%27-oeua/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: กายบริหาร กล้ามเนื้อ กระชับเรือนกาย สลายไขมันหน้าท้องง่ายๆ

ไขมันหน้าท้องน่ะ ลดไม่ยากหรอก แต่ต้องออกแรงบริหารกันหน่อยค่ะ เรามี ท่าบริหารง่าย ๆ ใช้เวลาวันละ 15 นาที
จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้นค่ะ แต่อย่าลืมควบคุมอาหาร ด้วยการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง และดื่มน้ำมาก ๆ ด้วยนะคะ จะได้เลิกไว้พุงกันเสียทีไงค่ะ

ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบน


1. นอนราบลงบนพื้น งอเข่าขึ้น วางเท้าราบกับพื้นโดยให้เท้าห่างกันประมาณ 1 ฟุต หรือให้อยู่แนวเดียวกับสะโพก ส่วนแขน
วางไว้ข้างลำตัว


2. หายใจเข้าพร้อมกับยกศีรษะและไหล่ขึ้น เหยียดแขนตึงเลื่อนมือขึ้นให้ปลายนิ้วแตะกับหัวเข่า


3. ลดศีรษะและไหล่กลับลงสู่ท่าเริ่มต้นพร้อมกับหายใจออก ถ้าคุณเพิ่งเริ่มหัดทำ ควรทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง จากนั้นให้ค่อยๆ
เพิ่มจำนวนครั้งเป็น 15 ครั้งค่ะ

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/adanoaaxi1oa-eaoaaan1/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: บำรุงเท้า แก้เท้าแห้งกร้านได้ง่ายๆด้วยตัวคุณเองจ๊ะ

เท้าของคุณแห้งกร้านจนไม่กล้าโชว์ให้ใครเห็นใช่มั้ย?

รองเท้าคู่สวยของคุณอาจเป็นตัวการที่ทำให้เท้าถูกทารุณกรรมมาเป็น เดือนๆ หรือแม้แต่เป็นปีๆ ในการฟื้นฟูสภาพเท้าให้สามารถอวดสายตาได้อีกครั้งนั้น


ขั้นตอนที่ 1 เริ่มด้วยการแช่เท้าในน้ำส้มคั้นอุ่นๆ ประมาณหนึ่งลิตร (หรือจะใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำแทนก็ได้) เป็นเวลา 10 นาที กรดในน้ำส้มจะช่วยขัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป


ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นผสมน้ำมันมะกอกครึ่งถ้วยกับน้ำตาลทราย 1/4 ถ้าย และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเปปเปอร์มินต์สองสามหยด แล้วถูลงบนเท้าให้ทั่ว เพื่อช่วยขจัดผิวที่หยาบกร้านออกไป


ขั้นตอนที่ 3 จากนั้นใช้ตะไบขัดเท้าขัดผิวหนังส่วนที่หยาบกร้านบริเวณฝ่าเท้าออก หลังจากล้างน้ำ ให้สะอาดแล้ว ก็ทาโคลนพอกผิวชนิดที่ให้ความชุ่มชื้น แล้วห่อเท้าแต่ละข้างด้วยพลาสติกห่ออาหาร แล้วใช้ผ้าขนหนูร้อนๆ ห่อทับอีกที ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างน้ำออก หลังทาครีมชนิดเข้มข้นเสร็จแล้ว ก็สวมถุงเท้าผ้าฝ้ายเอาไว้เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ครีมได้ซึมซาบลงไปแล้วทำให้ผิวนุ่มขึ้น

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/ooaoaeo-xe1ucoaecaaeeaeo-ecanco3aiaacoooaeoaae/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: หลีกเลี่ยงการทำร้ายเส้นผม 9 ประการ

คุณเผลอทำร้ายผม แบบไม่ตั้งใจกันหรือเปล่า?

1. เป่าตลอด


จะวันหยุด วันทำงาน วันไหนๆ ฉันก็ต้องเซ็ตผมด้วยเครื่องเป่าผม เปิดให้ร้อนสุดฤทธิ์ และในที่สุด ผมสวยๆ ของคุณ กลายเป็นผมแห้งไมต่างอะไรกับซังมะพร้าวดีๆ นี่เอง ถ้าไม่รีบนักลองปล่อยให้ผมแห้งเอง โดยธรรมชาติบ้างและหากต้องใช้เครื่อง เป่าผมก็อย่าจ่อเครื่องเป่าให้แนบติดกับผมมากเกินไป หาเครื่องเป่าผมที่มีช่องลมโตๆ และเปิดความร้อนให้ระดับต่ำสุด จะดีกับสุขภาพของเส้นผมของคุณมากกว่า

2. แปรงผมวันละร้อยครั้ง


ใครว่าแปรงผมบ่อยๆ แล้วผมจะสวยเริ่ดน่ะ เลิกเชื่อได้แล้วล่ะ เพราะการแปรงผม คือการจัดผมให้เข้ารูปเข้าทรง แปรงผมบ่อยเกินไป จะไปดึงเส้นผม อาจทำให้หนังศีรษะถลอกเป็นแผลได้ และที่สำคัญควร
แปรงผมอย่างเบามือ เลือกใช้แปรงที่ขนแปรงห่างกันมากๆ จะช่วยป้องกันเส้นผมพันกันค่ะ

3. ใช้แชมพูทูอินวันสะดวกดี
แชมพูประเภททูอินวันน่ะสะดวกดี แต่ไม่ควรใช้เป็นประจำ เพราะอาจทำให้เส้นผมของคุณหยาบกระด้างได้ จ่ายตังค์เพิ่มขึ้นอีกหน่อยเลือกใช้แชมพู และครีมนวดผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมจะดีกว่าน่า

4. ใช้ยางหนังสติ๊กรัดผม


ยางหนังสติ๊กน่ะ เขาทำมาสำหรับรัดปากถุง แต่สาวๆ ที่ชอบนำมารัดผม ในยามที่รวบหางม้า จะทำให้ผมอ่อนแอ และแตกปลายได้ เลือกใช้ที่ยางรัดผม ที่หุ้มด้วยผ้า จะถนอมเส้นผมของคุณมากกว่าค่ะ

5. เกาแกรกๆ ในระหว่างสระผม
คนที่ชอบเกาแกรกๆ ในระหว่างสระผม เพราะเกิดอาการคันผม หรือคันมือคันไม้ ก็ตามที ขอบอกว่าถ้าคุณเป็นรังแค การเกาแกรกๆ จะทำให้รังแคลุกลามมากขึ้น การสระผมที่ถูกวิธี ควรนวดด้วยฝ่ามือแทนที่จะเกาแกรกๆ อย่างที่เคยชินมือ

6. เป่าผมในขณะที่ผมยังเปียกอยู่


การเป่าผม หลังจากที่สระผมเสร็จแล้ว โดยที่ผมยังเปียกชื้นอยู่ ผมอาจจะแห้งไวสมใจ แต่จะมีปัญหาผมแห้งกรอบตามมา ให้หนักใจกันอีกด้วยนะสิ อยากถนอมเส้นผม ให้ดูสวย ไม่แห้ง จนขาดชีวิตชีวา ควรปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติบ้าง ถ้าจะเป่าผมก็ไม่ว่ากัน แต่ควรซับน้ำออกจากผมให้มากที่สุดก่อน

7. ไม่ค่อยสระผม
คุณอาจเคยเชื่อว่า สระผมบ่อย ๆ แล้วจะทำให้ผมแห้ง แต่ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญเรื่องผม ต่างยืนยันมาว่าไม่จริงค่ะ ยิ่งคุณอยู่ท่ามกลางมลพิษ อย่างเมืองกรุงของเรา คุณจำเป็นต้องสระผมบ่อย ๆ ควรสระทุกครั้งที่รู้สึกว่า ผมสกปรก เพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษนี่แหล่ะ เป็นต้นเหตุให้ผมของคุณขาดประกายเงางาม และกลายเป็นผมหยาบมือในที่สุด

8. ประโคมเครื่องสำอางสำหรับผมมากไป
สาวสมัยนี้ นอกจากมีเครื่องประทินผิวช่วยยับยั้งความแก่ มีเมคอัพหลากสีสัน ให้ปรุงแต่งตามอารมณ์สาว เครื่องสำอางสำหรับผม ก็ไม่น้อยหน้า มีให้เลือกใช้แบบเลือกกันไม่ถูกทีเดียว ทั้งแบบเจล โฟม สเปรย์ โลชั่น แต่การใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมกันเป็นประจำ ชนิดที่ไม่ปล่อยให้เส้นผมได้สวยตามธรรมชาติ ก็อาจทำให้เกิดการตกค้าง
ของสารเคมีบนเส้นผมของคุณ ทำให้เส้นผมส่องประกายเงางามได้ยาก ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมบ่อย ก็ควรจะสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนใสบ้าง เพื่อช่วยชำระสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผม

9. ดัดๆ ยืดๆ ตามแฟชั่น


แม้จะทำให้คุณสวย แบบไม่หลุดเทรนด์ แต่เป็นการทารุณกับเส้นผมของคุณเป็นอย่างมาก เพราะศัตรูตัวร้ายรองจากแสงแดด และการเป่าผม ก็คือการปล่อยให้เส้นผมโดนสารเคมีแรง ๆ จากน้ำยาดัด และยืดผม ซึ่งทำให้ผมของคุณป่วยได้ง่ายๆ เหมือนกัน

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/aneoeoaoaee1aecaoaeaoaaoea-9-coooeoaeoaaee1a/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: เคล็ดลับการเร่งเส้นผมให้ยาวเร็วขึ้น

สาวๆ หรือหนุ่มๆ คนไหน ผมยาวไม่ทันใจ วันนี้เรามีเคล็ดลับการเริ่งผมให้ยาวมาบอกจ๊ะ


เริ่มจาก กระตุ้นหนังศีรษะ อาจจะใช้แปรงสำหรับนวดหนังศีรษะหวีให้ทั่ว หรือจะใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเบา ๆ ประมาณ 2-3 นาที ก่อนสระผม จากนั้นสระผมด้วยแชมพูและคอนดิชันเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น เชียบัตเตอร์ หรือน้ำมันอะโวคาโด เพื่อป้องกันไม่ให้ผมขาดหลุดร่วงและเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม

เสร็จจากขั้นตอนการสระล้าง ควรเช็ดผมเบา ๆ ใช้หวีที่มีฟันซี่ห่าง ๆ สางผม แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ งดการใช้ความร้อนอย่างไดร์เป่าผมหรือเครื่องรีดผมไฟฟ้า เพราะจะทำให้ผมกรอบและขาดหลุดร่วงได้ง่าย

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/aacanocoooaeeaee1aaocaaccoe1/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: เคล็ดลับวิธีลดต้นขาง่ายๆอย่างได้ผลจริงๆจ๊ะ

ทุกวันนี้ความสวยความงาม ของสรีระร่างกาย มักจะถูกกำหนดมตารฐานโดยรวมกับแพ็คเกจ จากคนในสังคมว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นมีหรือเลดี้อย่างเราๆ จะยอมตกเกณฑ์มตารฐานที่ว่าต้องผอมเพรียว สูง สง่า ถึงจะเรียกได้ว่าสวยชนะเลิศ!


ไหนๆ จะสวยทั้งทีแล้ว ก็ต้องสวยแบบสวมมงกุฎเลยฟิตร่างกายได้ที่เพราะอะไรที่เขาว่า ‘ดี’ ก็ทำมาหมด แต่ปัญหาหนักอกที่ผู้หญิงต้องพบเจอกันไม่รู้จบส่วนใหญ่ก็คือต้นขา 3 คนโอบที่ใหญ่ชนิดอะไรก็หยุดไม่อยู่ บางคนไดเอทจนผอมโซ ต้นขาท่อนโตก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง หมดโอกาสนุ่งน้อยห่มน้อย กลัวออกปากซอยโดนจิ๊กโก๋ล้อ ‘ขาโจ๋ ขาใหญ่’ อายเขาแย่เลย

หากสิ่งที่เล่าไป ทั้งหมดเป็นปัญหาที่คุณกำลังเสียเวลาขบคิด ชนิดจะหันไปพึ่งมีดหมอศัลยกรรมให้เฉือนหั่นเอาไขมันออกแล้วละก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ เพราะเรายังมีวิธีการกระชับเรียวขาให้คุณเลือกลองใช้ตามความพอใจ แบบไม่อันตรายแต่เห็นผลด้วยเหมือนกัน

ว่ายน้ำ
เป็นวิธีแรกที่แนะนำให้ปฏิบัติ เพราการว่ายน้ำเป็นการบริหารได้ทุกสัดส่วนของร่างกาย รูปร่างดูเพรียวลงแล้วยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วย โดยท่าที่จะให้ผลต่อเรียวขามากที่สุดก็คือ ‘ฟรีสไตล์’ ซึ่งคุณต้องตีขาควบคู่ไปกับการว่ายน้ำ
แต่ถ้าคุณต้อการหลักสูตรเร่งรัด ในการกระชับเรียวขา ขอแนะนำให้เหยียดมือตรงๆ เกาะขอบสระ แล้วตีขาสลับกันไปมา ซึ่งเป็นท่าเริ่มต้นของคนฝึกว่ายน้ำ ทำจนรู้สึกเหนื่อยจึงพัก แล้วทำซ้ำอีกสัก 10 เที่ยว คุณก็จะรู้สึกว่าร่างกายเผาผลาญช่วงต้นขาให้เพรียวลงได้จริงๆ

การบริหารร่างกาย


สำหรับท่านที่คิดว่าการบริหารบนบกจะถนัด หรือสะดวกกว่า ก็ปฏิบัติตามท่าต่อไปนี้

ท่านอน
1. หาผ้าปูหรือเบาะรองนั่งมารองก้นเพื่อรับน้ำหนักและกันก้นเจ็บ
2. นอนหงายไปกับพื้น
3. ยกขาขึ้นทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง แล้วค้างเอาไว้
4. จากนั้นแยกขาออกจากกันไปทางด้านข้างแล้วหุบขา ทำซ้ำไปมา 20 ครั้ง และตามด้วยการปั่นจักรยานกลางอากาศ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 80 ครั้ง

ท่านั่ง
1. นั่งเหยียดขาให้ตรง แล้วยกขาขึ้นจากพื้นเล็กน้อย โดยสลับซ้ายขวา 100 ครั้ง

ท่ายืน
1. ยืนหันข้างให้กับกำแพงมือวางบนกำแพงหรือยึดจับกับขอบโต๊ะก็ได้
2. เหยียดขาข้างที่ไม่ได้ชิดกำแพง ยกขึ้นมา 90 องศา ด้านหน้าพยายามให้ขนานกับพื้นแล้ววางลง 10 ครั้ง
3. จากนั้นเปลี่ยนเป็นยกขาขึ้นทางด้านข้างและด้านหลัง อย่างละ 10 ครั้งเหมือนกัน
4. ทำซ้ำกับขาอีกข้าง

รับรองว่าภายใน 1 เดือน คุณจะมีเรียวขาคู่งามไว้เดินโชว์หนุ่มๆ อย่างไม่น้อยหน้าใครเลยล่ะค่ะ

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/eoancooae1oeoaaeiaeoaec1a/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: เคล็ดลับกำจัดสิวเสี้ยนง่ายๆด้วยตัวคุณเองจ๊ะ


ใครที่กำลังมองหาวิธีกำจัดสิวเสี้ยน วันนี้มีวิธีมาบอก ดังต่อไปนี้

1. ใช้น้ำผึ้ง อุ่นน้ำผึ้งเล็กน้อย และทาลงบริเวณที่มีปัญหา 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งมีประสิทธิภาพอย่างมากในการกำจัดสิวเสี้ยน

2 ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำ ผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ ถูส่วนผสมนี้ลงบนผิว 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะกำจัดสิวเสี้ยนอย่างมีประสิทธิภาพ

3 ใช้น้ำมะนาว ใช้น้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน วันละ 2-3 ครั้ง น้ำมะนาวจะทำให้รูขุมขนตึงขึ้นและทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวน้อยลง


4. มาส์กข้าวโอ๊ตกับกุหลาบ ส่วนผสมนี้จะช่วยกำจัดสิวหัวดำที่มีอยู่แล้ว และป้องกันการเกิดขึ้นใหม่อีก วิธีการคือผสมข้าวโอ๊ตบดละเอียดกับน้ำกุหลาบให้เป็นส่วนผสมข้น ๆ ทาส่วนผสมลงบนหน้าบริเวณที่เป็นสิวหัวดำทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น ซึ่งจะช่วยปิดรูขุมขนที่เพิ่งทำความสะอาดมาใหม่ๆ ป้องกันการเกิดสิวหัวดำต่อไป

5. มันฝรั่ง มันฝรั่งดิบสับละเอียดสามารถใช้รักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างรวมทั้งสิวหัวดำ โดยพอกมันฝรั่งลงบนผิวที่เป็นปัญหาโดยตรง ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด

เพียงเท่านี้ก็สามารถขจัดปัญหาสิวเสี้ยนออกไปได้แล้วค่า

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/1-1488/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: วิธีดูแลและกำจัดขนหน้าแข้งจ๊ะ


การมีขนหน้าแข้งนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีมากเกินไปก็คงไม่ค่อยงามเท่าไหร่ วิธีกำจัดน่ะเหรอ มีหลายวิธีค่ะ

1. วิธีธรรมชาติ ..ก็ถอนซะเลย ไงคะ
วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีขนหน้าแข้งไม่มากเท่าไหร่ ต้องใช้ความอดทนสูง เพราะเจ็บมากกก(เดี๊ยนเคยลองมาแล้ว) แต่ก็ได้ผลดีนะคะและกว่าขนใหม่จะขึ้นมาอีกก็ใช้เวลานานพอดู

2. ครีมขจัดขน
ลองหามาใช้สิคะ เลือกเอายี่ห้อดีๆ มีชื่อ ไว้ใจได้ อย่าริไปลองของโนเนมล่ะ ขาของคุณอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงดีไม่ดีขาอาจเสียโฉมไปเลยก็ได้ ถ้าแบบพอมียี่ห้อหน่อย คนส่วนใหญ่ที่ลองใช้ จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะขาไม่ใช่ส่วนที่บอบบาง หากเป็นเรื่องของใบหน้าคุณก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ กับการสรรหาผลิตภัณฑ์มาใช้



3. ย้อมสี สิได้ผลชัวร์
แต่ต้องตัดสินใจดีๆ นะคะ เดี๊ยนมีประสบการณ์จากเพื่อนบ้านมาเล่าให้ฟังค่ะ คือเพื่อนคนนี้มีขนหน้าแข้งที่ยาวและดำ ดูแล้วเหมือนขาสกปรกจึงหาวิธีต่างๆ นานาในที่สุดก็พบว่า วิธีที่รวดเร็ว ไม่เจ็บ และไม่เสี่ยงกับอาการแพ้ ก็คงจะเป็นการย้อมสีขนนี่หล่ะ แหม...ที่เค้าว่าดี เดี๊ยนก็ไม่ขัดหรอกค่ะ แต่ว่าสีที่เอามาย้อมนี่สิ ช่างไม่เข้ากับร่างกายชาวเอเชียอย่างเราเสียเหลือเกินเพราะเขาใช้ "สีทอง" มาย้อมซะนี่ จริงอยู่ว่าขาจะแลดูสะอาดสะอ้าน แต่คนอื่นจับได้ว่าไปย้อมสีขนมา โดนล้อเสียเกือบแย่ อายไปพักใหญ่เลย ยังไงซะ คุณที่มีความคิดว่าจะย้อมสีขน ก็เลือกสีที่จะใช้ด้วยนะคะ อย่างสีผิวเอเชีย ก็ใช้แค่สีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลอ่อน ขาของคุณก็ดูสะอาดขึ้นแล้วล่ะค่ะ
แต่ขอบอกไว้สักนิดนะคะว่า ที่จริงแล้ว ไม่มีวิธีไหนที่ถาวรหรอก เพราะมันเป็นกรรมพันธุ์ ที่จะห้ามไม่ให้เกิดขึ้นเลยคงยาก แต่เราสามารถอำพรางมันได้ค่ะ

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/neo1e1eoae/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tips :: เคล็ดลับวิธีดูแลผมสำหรับสาวๆผมยาวจ๊ะ


หากถามผู้ชายร้อยทั้งร้อย ต้องบอกว่าชอบผู้หญิงผมยาว แต่การจะไว้ผมยาวให้ดูดีได้นั้น เส้นผมต้องนุ่มสวย มีเงางาม ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินความสามารถหรอกน่าเรามีคำแนะนำในการจัดการกับปัญหาของเส้นผม ที่มักจะทำให้ผมของคุณเสียสวยมาบอกกันค่ะ

เมื่อปลายผมแห้ง หักง่าย
เมื่อคุณไว้ผมยาวนาน ๆ ปัญหาหนึ่งที่พบกันบ่อย คือปลายผมจะเริ่มแห้ง ขาดน้ำหนัก และหักง่าย ถ้าเจอปัญหานี้ ให้ใช้วิธี
เล็มปลายผมทิ้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ นอกจากนี้ลองสำรวจดูว่าปลอกหมอนที่คุณใช้ มีเนื้อผ้าหยาบ ๆหรือเปล่าเพราะอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมหักได้ง่าย ลองเปลี่ยนมาใช้ปลอกหมอนที่ทำด้วยเนื้อผ้าลื่น จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ค่ะ

ผมขาดน้ำหนักดูเบาฟู
มักมีสาเหตุมาจาก การใช้ผลิตภัณท์แต่งผม เช่น เจล มูส หรือสเปรย์ประเภทที่มีแอลกฮอล์ผสมอยู่ นอกจากนี้รังสียูวีใน
แสงแดด ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายโปรตีนในเส้นผม ทำให้เส้นผมดูหยาบ รวมถึงควันบุหรี่ ที่จับเกาะบนเส้นผม ก็อาจทำ
ให้เส้นผมขาดความมันเงาได้ วิธีแก้ ก็คือ หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารป้องกันยูวี
และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่อบอวลด้วยควันบุหรี่

เส้นผมขาด
มักเกิดจากการมัดรวบจนแน่นตึง การใช้หนังสติ๊กมารัดผม รวมทั้งการหวีผมแรง ๆ อาจทำให้เส้นผมขาดได้ง่าย
วิธีแก้ ให้รวบผมหลวมๆ หรือปล่อยผมสยายออก และไม่ควรใช้หนังสติ๊กซึ่งใช้มัดของ มารวบผม ควรใช้ยางรัดที่ออกแบบมาเพื่อ
รัดผมโดยเฉพาะจะดีกว่า

ผมแตกปลาย
ปัญหาผมแตกปลาย มีวิธีแก้ทางเดียวคือเล็มปลายผมทิ้ง

ผมลีบแบน
คนที่เส้นผมเล็ก เมื่อไว้ผมยาว อาจทำให้ดูลีบแบนได้ วิธีทำให้ดูผมพองตัว หลังจากสระผมแล้ว ให้ใช้สเปรย์ที่ช่วยเพิ่ม ความหนาให้กับเส้นผม แล้วเป่าให้แห้ง โดยก้มศีรษะลง ใช้แปรงกลมขนาดใหญ่ แปรงผม เพื่อให้ผมดูพองตัว จากนั้น
แบ่งผมเป็นช่อ ๆ พันเส้นผมด้วยโรลม้วนผมขนาดใหญ่ ปล่อยทิ้งไว้สัก 10 นาที จะทำให้เส้นผมดูพองสวยขึ้นค่ะ


เคล็ดลับในการปราปผมชี้ตั้ง
ให้ใช้โลชั่นหรือครีมแต่งผม ทาที่ฝ่ามือเล็กน้อยแล้วสางผมเส้นผมให้ทั่ว และลองเปลี่ยนมาใช้ แปรงผมที่ขนแปรงทำจากธรรมชาติแทนพลาสติคนอกจากนี้ควรเลี่ยงการไดร์ผมบ่อย ซึ่งมักจะ
ทำให้เส้นผมแห้ง เกิดไฟฟ้าสถิตย์ได้ง่าย

ที่มา: http://www.sapaan.net/forum/beauty-community/uaaaeoeanoeocaaoc/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Beauty Tricks :: วิธีดูแลผิวสำหรับคนนอนดึก



              มาประเดิม Blog แรกแบบสาระ-สาระกัน วันนี้จะขอพูดถึงเรื่องการดูแลผิวให้กับสาวกผู้ที่ชอบนอนดึกเป็นประจำ เพราะจะสังเกตุได้ว่าพักหลังๆ มานี้ รู้สึกว่าผิวหยาบกระด้างมาขึ้นทุกทีๆ (ก็แน่ล่ะสิ เล่นนอนกันเกือบเช้าทุกวี่ทุกวัน อิอิ) เลยไปหา Trick ดีๆ มาฝากกันค่ะ


เวลาที่เหมาะสำหรับการนอน

               สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการนอนเพื่อความงาม และสุขภาพ ควรนอนก่อน 5 ทุ่ม และหลับให้สนิท จนกระทั่งถึงตี 2 แต่บางครั้งเราก็ทำแบบนั้นไม่ได้ทุกคืน ที่สำคัญ การตื่นนอนแต่เช้าจะดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วยค่ะ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ควรมีการดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้นจากปกติ เพื่อให้สุขภาพผิวของเราสมบูรณ์พร้อมสำหรับวันต่อไปค่ะ --- ฮึ๊บๆๆ ข้อนี้ขอผ่าน ทำไม่ได้จริงๆ 5555



มาร์สหน้าในตอนเช้า และก่อนนอน

               ถ้าต้องนอนดึก ควรบำรุงผิวด้วยมาส์กบำรุงผิวหน้าก่อนนอนใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น จะช่วยได้มากเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา บำรุงด้วยมาส์กที่ทำไว้สำหรับบำรุงผิวรอบดวงตาเป็นพิเศษ เพราะเวลาที่เรานอนดึกนั้น ความอ่อนล้าจะมาสะสม และแสดงออกที่รอบดวงตามากกว่าปกติ ถ้าผิวดูหยาบกร้าน ควรใช้มาส์กที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกครั้ง จะทำให้ผิวหน้าของเราดูดีเหมือนไม่ได้นอนดึกเลยล่ะค่ะ --- ฮิฮิ ขอนี้ถือว่าทำไหว แต่ตอนเช้าคงไม่ไหว ขอเป็นก่อนนอนแระกัน



ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจด

                ไม่ว่าคุณจะกลับดึกแค่ไหน สิ่งสำคัญที่จะต้องทำทุกครั้ง ก็คือ ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจด เพื่อให้ผิวได้พักผ่อน และสัมผัสกับอากาศบ้างในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรกที่จะมาอุดตันตามรูขุมขน โดนเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผิวของเราอ่อนแอจากการนอนดึกแล้วเนี่ย สิวจะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก --- เพราะแบบนี้นี่เอง สิวพากันมาเดินพาเหรดบนหน้า เจ็บใจนัก 555




ใช้น้ำอุ่นจัดและน้ำเย็นสลับกันในการล้างหน้า

                  การที่เรานอนดึกนั้น การไหลเวียนของเลือดจะไม่ค่อยดีนัก ควรกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น สลับกับน้ำเย็น จะทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส เพราะเมื่อผิวโดนน้ำอุ่น จะขยายตัว ทำให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่หลุดออก และเมื่อใช้น้ำเย็น รูขุมขนก็จะกระชับเข้า ดังนั้น เราควรเริ่มต้นด้วยน้ำอุ่น จบด้วยน้ำเย็นค่ะ --- อานะ บ้านเรามะมีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบนี้ต้องต้มน้ำอาบเลยมะ คริคริ



เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว

                  ไม่ว่าจะเป็นผิวแบบไหน การคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวนั้นสำคัญมากที่สุด เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ต้องเลือกที่คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว และบำรุงลึกถึงผิวชั้นในเป็นสำคัญค่ะ --- ยี่ห้อไหนดีน๊าา เลือกไม่ถูกล่ะสิ เหมือนกันเลย หุหุ








 
ห้ามรับประทานอาหารทอดหลังเที่่ยงคืนเด็ดขาด

                   เพียงแค่การนอนดึกก็ไม่ดีต่อผิวอยู่แล้ว ถ้ายิ่งรับประทานอาหารที่มีน้ำมันมากเข้าไปอีก จะทำให้มีสิวเกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากร่างกายจะขับไขมันส่วนเกินออกมาทางรูขุมขน นอกจากนี้ ก๋วยเตี๊ยว ของหวาน ชา และกาแฟ ก็ไม่ควรแตะต้องด้วยเช่นกัน หากว่าหิวจนทนไม่ไหวจริงๆ แนะนำให้รับประทานผลไม้จะดีกว่าค่ะ --- bye bye ไก่ทอด Mc Donald's ซัดทุกคืน 5555






  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

RSS Feed :: Girly Beauty Tips & Tricks